สังข์ ในพิธีมงคล ธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์
เคยสงสัยไหม ทำไมแต่งงานต้องมีพิธีรดน้ำสังข์? ทำไมจึงเป่าสังข์ในพิธีมงคล? ทำไมเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์ต้องถือสังข์ในพระหัตถ์?
...แล้วสังข์ศักดิ์สิทธิ์ต้องเวียนซ้ายหรือเวียนขวา?
คนไทยคุ้นเคยกับหอยสังข์ผ่านพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์ที่รับอิทธิพลจากประเทศอินเดียมาแต่โบราณ จนพิธีกรรมและความเชื่อแบบพราหมณ์กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตคนไทย เราจึงเห็นภาพชาวไทยพุทธบูชาเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์โดยไม่ตะขิดตะขวงใจและสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับพิธีมงคลคือ สังข์
คำถามทั้งหมดได้รับคำตอบจากหนังสือ สังข์ ธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดย ดร.ชวลิต วิทยานนท์, ดร.อภิณัฏฐ์ กิติพันธุ์ และ พิริยะ วัชจิตพันธ์
จากหอยทะเลกลายมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีเรื่องราว ความเชื่อ และประเพณี
ลักษณะของสังข์
สังข์ คือ หอยทะเลกาบเดียว ใช้ในการประกอบพิธีมงคล โดยสังข์พิธีจะเรียกลักษณะนามว่า "ขอน" ไม่ใช่ "ตัว" เหมือนหอยทั่วไป ผิวชั้นนอกสุดเป็นเปลือกหนาสีน้ำตาล คือ ไคติน จะหลุดออกเมื่อหอยตายไปสักระยะหนึ่ง เมื่อลอกเปลือกชั้นนอกออกจะพบเปลือกแข็งลักษณะเรียบมันมีสีสันต่างกันไป เช่น ขาว เทา ชมพู ส้ม หอยสังข์แต่ละชนิดมีชื่อเรียกตามถิ่นที่พบเจอตั้งแต่มหาสมุทรอินเดียจนถึงมหาสมุทรแอตแลนติก โดยจะพบในเขตร้อน ได้แก่ สังข์อินเดีย สังข์ศรีลังกา สังข์สุวรรณภูมิหรือสังข์อันดามัน สังข์ยักษ์แอฟริกา สังข์บราซิล สังข์แคริบเบียน
สังข์ที่นิยมใช้ในพิธีมงคล คือ สังข์อินเดีย
ส่วนสังข์ที่พบได้ในไทย คือ สังข์สุวรรณภูมิหรือสังข์อันดามัน ในน่านน้ำไทยฝั่งอันดามัน ถือเป็นหอยหายากราคาแพง หลังภัยพิบัติสึนามิ ปี 2547 ก็ไม่พบสังข์ชนิดนี้ในทะเลอันดามันเลย ตำนาน และสิ่งศักดิ์สิทธิ์การใช้ประโยชน์จากสังข์มีมาแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในลักษณะของเครื่องใช้ ทั้งเครื่องประดับ ภาชนะ และแตรสัญญาณ ส่วนการใช้ในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์และตำนานนั้นถูกบันทึกเมื่อมีศาสนาพราหมณ์ในประเทศอินเดีย มีตำนานบันทึกไว้เป็นเรื่องราวของพระนารายณ์ หรือพระวิษณุกับคัมภีร์พระเวท คือคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ที่รวบรวมบทสวดความรู้และความเชื่อ
เรื่องเล่าว่า ยักษ์ชื่อ สังข์อสูร ไปพบพระพรหมบรรทมแล้วเห็นพระเวทไหลออกมาจากพระโอษฐ์ จึงขโมยพระเวทด้วยความอิจฉา ระหว่างนั้นพระนารายณ์ทอดพระเนตรเห็นจึงตามไปทวงพระเวทคืน ยักษ์เห็นพระนารายณ์ก็กลืนพระเวทลงท้อง หนีลงมหาสมุทร ด้านพระนารายณ์ก็แปลงกายเป็นปลา เมื่อเจอสังข์อสูรจึงใช้พระหัตถ์ล้วงพระเวทในท้อง จนเนื้อที่ปากของยักษ์เป็นรอยนิ้วพระนารายณ์ เมื่อได้พระเวทคืนแล้วจึงสาปให้สังข์อสูรอยู่ในมหาสมุทรตลอดไป และระบุให้มีสังข์เข้าร่วมพิธีมงคล เมื่อมนุษย์จะทำการมงคลก็จะต้องจับสังข์มาร่วมพิธี
เหตุหนึ่งตามเรื่องเล่าที่ถือว่าสังข์เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะว่าสังข์เคยเป็นที่อยู่ของคัมภีร์พระเวท อันเป็นคัมภีร์ที่ได้รับการบูชาสูงสุดในศาสนาพราหมณ์
ส่วนอีกหนึ่งเกร็ดจากเรื่องเล่าคือร่องรอยจากพระหัตถ์พระนารายณ์ที่ทิ้งไว้ที่ปากสังข์อสูร เมื่อนำหอยสังข์อินเดียมาพิจารณาจะเห็นร่องเป็นสันที่บริเวณปากสังข์ ส่วนนี้เองที่เรียกว่า รอยนิ้วพระนารายณ์
สังข์ กับ วัฒนธรรม
จากคติความเชื่อทำให้สังข์ถูกนำมาใช้ประโยชน์ตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะการใช้งานเพื่อความเป็นมงคล สังข์ที่นิยมนำมาใช้ประกอบพิธีมากที่สุด คือ สังข์อินเดีย เนื่องจากมีลักษณะถูกต้องตามหลักความเชื่อของศาสนาพราหมณ์
นอกจากนี้ในอดีต สังคมอินเดียมีการแบ่งสีของสังข์ตามวรรณะเพื่อเป็นเครื่องใช้ประจำตัว
สีขาวสำหรับพราหมณ์ สีแดง น้ำตาล ชมพู สำหรับกษัตริย์ สีเหลือง สำหรับไวศยะหรือพ่อค้า สีเทา ดำ สำหรับศูทร ชาวไร่ชาวนา ผู้ใช้แรงงาน
ส่วนการใช้งาน มีทั้งใช้รดน้ำและใช้เป่า
สังข์รดน้ำ ใช้ตามความเชื่อจากกำเนิดสังข์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อน้ำใดผ่านสังข์แล้วจึงถือเป็นมงคลด้วย พิธีรดน้ำนี้จึงเรียกว่า อภิเษก เช่น อภิเษกสมรส สังข์ที่นำมาใช้จะเลือกสังข์ที่มีลักษณะสวยงาม
สังข์เป่า เป็นวิธีการใช้งานตั้งแต่โบราณกาล โดยการตัดปลายด้านจุกแหลมให้เป็นรู แล้วเป่าเกิดเสียงก้องกังวาน ใช้ทั้งเป็นเครื่องดนตรีและการส่งสัญญาณ ตามความเชื่อทางศาสนาพราหมณ์ถือเป็นเสียงมงคล ด้วยเสียงที่ดังคล้ายเสียง "โอม" ซึ่งเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นเสียงที่สร้างบรรยากาศอันเป็นมงคลในงานพิธี
มหาสังข์
มาถึงคำถามที่หลายคนสงสัย คือสังข์ศักดิ์สิทธิ์ ต้องเวียนซ้ายหรือเวียนขวา?
แท้จริงสังข์ที่มีลักษณะหายากนี้ เรียกได้หลายชื่อ คือ มหาสังข์ สังข์ทักษิณาวัตร สังข์ทักขิณาวรรต
เมื่อเรียกว่า "สังข์ทักษิณาวัตร" หลายๆ คนก็จะร้อง...อ๋อ! เข้าใจทันทีว่า เวียนขวา
แล้วดูยังไง?
มหาสังข์ คือ สังข์อินเดียที่เวียนขวา เวลาดูให้หันด้านที่เป็นจุกม้วนวนเข้าหาตัว หากปากสังข์เปิดทางขวา นั่นคือสังข์เวียนขวา วิธีการดูอย่างนี้ตรงกันข้ามกับการดูสังข์ทางชีววิทยา ตามหลักชีววิทยา มหาสังข์เวียนขวา จะถูกเรียกว่าสังข์เวียนซ้ายเมื่อใช้วิธีการดูในด้านตรงข้ามกัน
โดยทั่วไปหอยทะเลจะมีเปลือกหมุนเวียนซ้าย กรณีสังข์เวียนขวาจึงเกิดจากการผ่าเหล่า หาได้ยากชนิดที่ว่าเป็นหนึ่งในล้าน จึงมีราคาแพงมาก
ยิ่งหายากความต้องการยิ่งสูง จึงมีการหลอกขายกันโดยใช้หอยทะเลชนิดอื่นที่มีเปลือกเวียนขวาตามธรรมชาติ มาหลอกขายว่าเป็นมหาสังข์ โดยสังเกตได้ว่าสังข์เหล่านี้จะไม่มีรอยนิ้วพระนารายณ์บริเวณปากสังข์ แต่ก็มีการบากร่องให้ดูเหมือนสังข์อินเดีย
ด้วยที่มาจากความเชื่อและวัฒนธรรมทำให้หอยทะเลชนิดนี้มีเสน่ห์จากเรื่องเล่าอันมีรายละเอียด ผสานกับความงามตามธรรมชาติ ผิวเรียบเป็นมันวาว สีและรูปร่างเฉพาะตัวอันน่าจับใจ จึงไม่แปลกใจว่าเหตุใดหอยสังข์จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งในคติความเชื่อเรื่องความเป็นมงคลในศาสนาพราหมณ์
ของขวัญจากทะเลที่พระนารายณ์หยิบยื่นให้แก่มนุษย์
ติดตามรายละเอียดเรื่องราวและภาพที่บันทึกความงามของหอยสังข์หลากชนิดได้ในหนังสือ "สังข์ ธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์" ที่ร้านมติชนบุ๊คคลับ และทางเว็บไซต์สำนักพิมพ์มติชน www.matichonbook.com
พิสูจน์ความงามกับของขวัญจากท้องทะเลด้วยสายตาตนเองCr : http://www.matichon.co.th/ โดย วจนา วรรยางกูร